หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

ทัวร์ฟุกุโอกะ ก่อนจะมาเป็นเมืองชื่อดังของญี่ปุ่น

ทัวร์ฟุกุโอกะ ก่อนจะมาเป็นเมืองชื่อดังของญี่ปุ่น


การบุกครองญี่ปุ่นของมองโกล เป็นเหตุการณ์ที่กองทัพของจักรวรรดิมองโกล เข้ารุกรานญี่ปุ่นสองครั้ง ในปี ค.ศ. 1274 และ 1281 ขณะนั้น จักรวรรดิมองโกลขณะนั้นปกครองดินแดนมากกว่าครึ่งของทวีปเอเชีย และบางส่วนของยุโรป เป็นชาติมหาอำนาจที่เป็นที่หวั่นเกรงของทุกอาณาจักร ได้นำพาเกาหลีภายใต้ราชวงศ์โครยอ ซึ่งยอมสวามิภักดิ์ต่อมองโกลมาเป็นแนวร่วมในการรุกรานญี่ปุ่น

ถึงแม้ว่ามองโกลจะมีกำลังทางทหารที่เหนือกว่าญี่ปุ่นอยู่มาก แต่การรุกรานทั้งสองครั้งของมองโกลประสบความล้มเหลวอย่างยิ่งยวดอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติที่ร้ายแรง การสูญเสียไพร่พลจากการรุกรานครั้งที่สองนับแสนนายนั้น เป็นการนำมาซึ่งการเสื่อมถอยของจักรวรรดิมองโกล จนล่มสลายในอีก 87 ปีต่อมา

กุบไล ข่านแห่งจักรวรรดิมองโกล (ราชวงศ์หยวน) ได้เพ่งเล็งและสนใจในเกาะญี่ปุ่นที่เป็นประเทศปิด พระองค์ทรงเริ่มเตรียมการในปี ค.ศ. 1266 ดำริว่าประเทศญี่ปุ่นไม่มีประสบการณ์หากเทียบกับประเทศอื่นๆในโลกภายนอก จึงได้ส่งคณะราชทูตไปยังญี่ปุ่นเพื่อให้ยอมรับอำนาจของมองโกล ญี่ปุ่นขณะนั้นปกครองโดยตระกูลโฮโจ ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนโชกุนแห่งคะมะกุระ บะกุฟุ โดยโฮโจได้ปฏิเสธกลับไป กุบไลข่านส่งคณะราชทูตกลับไปอีกครั้งในปี 1268 ซึ่งครั้งนี้ โฮโจได้ปฏิเสธและประหารคณะราชทูต

ในปี 1274 กุบไลข่านส่งเรือรบ 900 ลำพร้อมไพร่พล 33,000 นายเข้าสู่ทางตอนเหนือของเกาะคิวชู ในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งเป็นทหารจากโครยอที่เป็นรัฐบรรณาการของมองโกล การรุกรานครั้งแรกล้มเหลวจากพายุไต้ฝุ่น ฝ่ายมองโกล–โครยอสูญเสียไพร่พลแทบทั้งหมด

ภายหลังความพ่ายแพ้ในการรุกรานครั้งแรก กุบไลข่านล่งคณะราชทูตไปอีกเป็นครั้งที่สามในปี 1279 ซึ่งโฮโจก็ได้สั่งตัดหัวพวกเขาเหมือนครั้งก่อน ทำให้ในปี 1281 กุบไลข่านส่งเรือรบ 4,400 ลำพร้อมไพร่พล 140,000 นายบุกไปที่ฟุกุโอกะ แต่ญี่ปุ่นเองก็เตรียมพร้อมรับมือเป็นอย่างดี หลังจากรบได้เพียงสองศึกและยังไม่มีทีท่าว่าฝ่ายใดจะเพลี่ยงพล้ำ พายุไต้ฝุ่นได้พัดเข้าที่เกาะคิวชูเป็นเวลาถึงสองวัน ทำลายกองเรือของมองโกลพินาศไปเกือบทั้งหมด ทหารมองโกลและโครยอเสียชีวิตกลางทะเลมากกว่าแสนนาย

กว่าจะมาเป็นฟุกุโอกะได้อย่างทุกวันนี้จะต้องผ่านประสบการณ์อะไรมามากมาย แต่นั่นก็ทำให้ฟุกุโอกะเป็นเมืองที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้

ขอบคุณข้อมูลน่ารู้จาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น